Reverse ETL คืออะไร? ทำไมใน Modern Data Stack เราถึงควรมีแนวคิดนี้?

เว็บไซต์นี้เค้าเขียนถึงความสำคัญของ Reverse ETL ได้ไว้เป็นอย่างดีเลย

แนวคิดนี้น่าสนใจเลยทีเดียวนะ เค้าบอกว่าในยุคนี้เนี่ย เครื่องมือธุรกิจต่างๆ ที่อยู่ด่านหน้า อย่างเช่น Salesforce หรือ Marketo อะไรพวกนี้ กลุ่มผู้ใช้งานฝั่งธุรกิจก็ย่อมอยากที่จะได้ข้อมูลที่สดใหม่อยู่เสมอในเครื่องมือพวกนั้น

จริงอยู่ว่าการที่เราโหลดข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าไปที่ data warehouse ของเราแล้ว ก็สามารถตอบโจทย์ในระดับหนึ่ง ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการดู dashboard แต่ว่ายังมีช่องว่างระหว่าง data warehouse กับเครื่องมือที่อยู่ด่านหน้าอยู่ดี (นึกภาพง่ายๆ ว่าเราต้องดูข้อมูลจากทั้ง 2 ระบบเอามาเทียบกัน)

แนวคิด “Reverse ETL” จากเว็บไซต์ข้างต้น เค้าบอกไว้งี้

Reverse ETL syncs data from a system of records like a warehouse to a system of actions like CRM, MAP, and other SaaS apps to operationalize data.

ถ้าพูดกันง่ายๆ ก็คือ เราจะโหลดข้อมูลจาก data warehouse ของเรานี่แหละ เข้าไปยังระบบพวก SaaS ด่านหน้าที่ฝั่งธุรกิจเค้าใช้กันนั่นเอง

แน่นอนว่าการที่เรามีข้อมูลอยู่ที่ด่านหน้าแล้ว เราก็จะสามารถใช้งานระบบเหล่านั้น ช่วยในการตัดสินใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจได้เร็วขึ้น และดีขึ้นด้วย (จากความสามารถของระบบเหล่านั้น)

และเค้าบอกว่า แทนที่เราไหลข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาาง แล้วไปวิเคราะห์กันที่นั่น ให้เพิ่มขีดความสามารถของเรา ให้สามารถย้ายข้อมูลจากตรงนั้นไปที่ระบบไหนก็ได้แทน


Credit: รูปจากเว็บไซต์ What is Reverse ETL? Here's everything you need to know in 2024

ถ้าทำแบบนี้ได้ เราก็จะสามารถปลดล็อกอะไรหลายๆ อย่าง เช่นจากพวก BI หรือ dashboard ต่างๆ ได้อีกด้วยนะ

จริงๆ ในบทความเค้าลงรายละเอียดไว้พอสมควรเลย อ่านเพลินๆ ได้ อยากให้ลองไปอ่านกันดูนะครับ :wink: คิดเห็นอย่างไร เรามาพูดคุยกันต่อได้ เย้

3 Likes

บทความจาก Airbyte อธิบายเรื่อง Reverse ETL

ก็ตาม cycle ของ data workflow นะ เพราะ SaaS เขามี target group ของตัวเอง น่าจะทำได้ดีกว่ามานั่งเย็บ table แล้ววาด dashboard เอาเอง

คงไม่มีใครอยู่ๆ ลุกมาทำ CRM ใช้เอง ยกเว้นเป็น niche มากๆ ถึงต้องมา customize เอา

ตำราเขาว่าไว้ ว่า ใช้เครื่องมือให้เหมาะกะงาน อิอิ :star_struck:

1 Like